BEM พลังชีวภาพ






คุณเคยรู้สึกไม่ค่อยสบายเนื้อสบายตัว นอนไม่หลับ อ่อนเพลียอยู่เสมอ ซึมเศร้า เหงา ขาดความกระตือรือร้น ขาดชีวิตชีวา เหมือนคนเป็นไข้ ฯลฯ แต่พอไปตรวจเช็คสุขภาพกลับพบว่า ร่างกายปกติดี ตรวจเลือดก็ไม่ได้พบว่าติดเชื้อ หรือน้ำตาลสูง ความดันโลหิตก็ใช้ได้ หัวใจก็โอเค แต่ก็ยังไม่รู้สึกเต็มร้อย ทั้งนี้อาจเป็นเพราะ การตรวจสุขภาพด้วยวิธีปกติธรรมดานั้น อาจไม่สามารถตรวจพบความผิดปกติเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเซลล์หรืออวัยวะภายใน เพราะยังไม่รุนแรงถึงขนาดทำให้เกิดโรค แต่ก็ไม่ได้แปลว่าร่างกายคุณปกติ ทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะเครื่องไม้เครื่องมือทางการแพทย์แผนปัจจุนันเน้นการตรวจทางกายภาพ คือสิ่งที่จับต้อง หรือมองเห็นได้ด้วยตา หรือถ่ายภาพได้ด้วยเอกซ์เรย์ หรืออัลตราซาวด์ กับการตรวจทางเคมี หรือผลเลือด ซึ่งเป็นการวัดระดับสารเคมีต่าง ๆ ในร่างกาย ซึ่งถ้าเพิ่งเริ่มมีความแปรปรวนอาจตรวจไม่พบ

ยังมีการแพทย์แผนใหม่ซึ่งบางคนก็เรียกว่า การแพทย์แห่งโลกอนาคต ที่สามารถตรวจวัดความผิดปกติของร่างกายได้ตั้งแต่ยังไม่เกิดอาการของโรค เพราะเป็นการวัดคลื่นพลังงานของทุก ๆ เซลล์ ทุกอวัยวะ และทุก ๆ สารในร่างกาย ทั้งวิตามิน ฮอร์โมน แร่ธาตุ เอนไซม์ น้ำย่อย รวมทั้งดีเอนเอที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้อีกด้วย เรียกเป็นทางการว่า Bio Energy Medicine หรือพลังชีวภาพ

BEM หรือ Bio Energy Medicine เป็นวิทยาศาสตร์การแพทย์แห่งโลกอนาคตที่มีหลักวิชาความเป็นมาจากการแพทย์แผนโบราณ โดยยึดถือหลักที่ว่าทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้เป็นเรื่องของพลังงาน เซลล์ทุกเซลล์ที่มีชีวิตก็จะมีพลังงานเฉพาะตัว แต่ละเซลล์ที่รวมตัวกันขึ้นมาเป็นอวัยวะก็จะมีพลังงานเฉพาะ และเช่นกันบุคคลแต่ละคนก็จะมีพลังงานที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งพลังงานเริ่มต้นของคนแต่ละคนนั้นถือจากจุดกำเนิด วันเดือนปีที่เกิด สถานที่เกิดจะเป็นตัวบ่งบอกว่าพลังงานของบุคคลคนนั้นมีจุดเริ่มต้นอย่างไร ได้รับอิทธิพลของดวงดาวต่าง ๆ แตกต่างกันอย่างไรบ้าง คล้าย ๆ กับวิชาโหราศาสตร์ แต่มีผลบ่งบอกไปถึงเรื่องของสุขภาพได้อย่างละเอียดถี่ถ้วน

ลองสังเกตุง่าย ๆ น้ำขึ้นน้ำลงในแต่ละวันนั้นนักวิทยาศาสตร์ได้ทำการพิสูจน์แล้วว่า มาจากแรงดึงดูดของดวงจันทร์แล้วจะไม่มีแรงดึงดูดจากดาวพุธ ดาวพฤหัส ดาวศุกร์ ดาวเสาร์ฯลฯ มายังตัวตนบุคคลกันบ้างเลยหรือ พลังงานจากน้ำ พลังงานจากไฟ พลังงานจากผืนแผ่นดิน พลังงานจากต้นไม้ใบหญ้าล้วนแล้วแต่มีผลต่อสุขภาพเราทั้งสิ้น ความจริงหลักการสมดุลของพลังงานนั้นมีอยู่ในศาสตร์การแพทย์จีนแผนโบราณมานานนับพันปีที่เราเรียกว่าหมอแมะ เมื่อแพทย์แผนโบราณจับชีพจรก็สามารถจะตรวจเช็คได้ว่า มีความผิดปกติของส่วนใดบ้างในร่างกายเราอวัยวะ บางส่วนอาจจะมีความเป็นหยิง บางส่วนอาจจะมีความเป็นหยาง หรือมีความร้อนความเย็น มีการทำงานมากไปน้อยไป เรียกว่าเกิดความไม่สมดุล แต่การศึกษาวิชาหมอแมะนั้นคงไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เป็นเรื่องของประสบการณ์ส่วนตัว

นักวิทยาศาสตร์ชาวรัสเซียเริ่มสังเกตุเห็นอิทธิพลของพลังงานและได้มุมมองใหม่ แทนที่จะมองเรื่องของสุขภาพร่างกายคนเราเป็นเรื่องทางกายภาพที่จับต้องได้ มีแขน มีขา มีอวัยวะภายใน หรือเป็นเรื่องของสารเคมีที่สามารถเจาะเลือดแล้วดูระดับน้ำตาล ระดับไขมันต่าง ๆ ในเลือดได้แล้วยังพบว่า เราสามารถตรวจวัดคลื่นพลังงานของอวัยวะต่าง ๆ คลื่นพลังงานของแร่ธาตุสารอาหารในร่างกาย คลื่นพลังงานของเอนไซม์น้ำย่อย คลื่นพลังงานของฮอร์โมนแต่ละชนิด ซึ่งบางชนิดมีปริมาณน้อยมากตรวจวัดทางเคมีในห้องปฏิบัติการได้ยาก แต่มีพลังงานของสารนั้น ๆ อยู่ซึ่งสามารถตรวจได้ด้วยควอนตัมฟิสิกส์ โดยไม่ต้องเจาะเลือดกันเลย

Page : 1 | 2